Thursday, December 19, 2013

คริสมาสต์...การให้...กับโซเชี่ยลมีเดีย (Christmas+Give+Social Media) = A better world






ปี 2013 ที่ผ่านมาโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ถ้า ณ วันนี้เราคงบอกว่าสภาพอากาศกรุงเทพฯเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่ถ้าย้อนกลับไปดู และมองออกไปดูโลกของคนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกรุงเทพแล้ว ปีที่ผ่านมา มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์กระทบกระเทือน ทั้ง ทุนทรัพย์ จิตใจ ร่างกาย และชีวิต ของคนหลายๆคน ใกล้คริสมาสต์ปีนี้ เอ็มขอหยิบประเด็นของ Viral Marketing (Viral แปลว่า กระแส ,Marketing แปลว่า การตลาด) การสร้างกระแสก็เป็นส่วนหนึ่งของการตลาด  บวกกับเทรนด์ในปี 2014 นี้ Video จะเป็นที่นิยมกันมากขึ้น บอกเปรยๆว่า ทางเฟสบุ๊คก็เริ่มปล่อยให้ทำโฆษณาเป็นวิดีโอแล้ว ถ้าคอนเฟิร์มอย่างไรจะบอกอีกทีนะคะ



กรณีตัวอย่างสำหรับวันนี้คือ วิดีโอที่ทำขึ้นมาเพื่อโปรโมทหนัง เรื่อง "The Secret Life of Walter Mitty"
Casey Neistat นักทำหนังชาวอเมริกัน ได้รับอีเมลล์จาก เอเจนซี่โฆษณาเจ้าใหญ่ที่รับงานมาจาก 20 century fox อีกทีให้ทำหนังสั้นเพื่อสร้างกระแสให้กับหนังเรื่อง "The Secret Life of Walter Mitty" อีกที คอนเซปต์คือ Live your dream หรือทำตามฝันของคุณ  หนังสั้นสร้างกระแสให้ผู้คน กล้าทำในสิ่งไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิตและทำอย่างที่เคยฝันไว้

20 century fox ตอบรับเงื่อนไขรูปแบบวิดีโอนี้ค่ะ

ด้วยงบประะมาณ 25,000 ดอลล่าร์ หรือเป็นเงินไทยคือ 800,000 บาท คุณ Casey จึงสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ วิดีโอหนังสั้นโดยใช้เงินทั้งหมด 800,000 บาทเพื่อช่วยผู้ประสบภัยไต้ฝุ่น ในฟิลลิปปินส์ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทุกผ่านทุกสตางค์ ใช้ไปกับถุงยังชีพที่ นำไปบริจาคค่ะ วิดีโอ ไม่ได้พูดถึงตัวละครของหนัง แต่วิดีโอ ทำให้เรารู้จักชื่อของหนัง ผ่านกระแสนี้ กระแสทางบวก การช่วยเหลือผู้อื่นผ่านสิ่งที่คุณต้องการทำตามความฝันของคุณได้ 


"What would you do with $25,000" ชมได้เลยค่ะ





คิด สร้างกระแสเชิงบวก และลงมือทำค่ะ ผลจะกลับมาหาคุณไม่ช้าก็เร็ว
Merry Pre-Christmas ค่ะ

Monday, December 16, 2013

Creativity : ปัญหา + ทรัพยากรที่มีจำกัด = ความคิดสร้างสรรค์

Create + Activity 
=
Creativity 

วันนี้มีโอกาสได้ฟังบรรยายของคุณ ธนา เธียรอัจฉริยะ 
ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้สร้างตำนานใหม่ให้กับ Happy Dtac

แบรนด์ยิ้มๆ ดูมีความสุข 
การบรรยายครั้งนี้เป็นการบรรยายที่มีหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์ โดยช่วงต้นคุณธนาได้บรรยายเกี่ยวกับเรื่องราวของคุณธนาเอง ความเป็นมาในสายอาชีพ จากอาชีพ Flight Attendant หรือ สจ๊วต ของสายการบินแห่งหนึ่งในสหรัฐ อเมริกา หลังจากนั้นได้ทำสายอาชีพทางการเงิน และเข้าสู่ DTAC ต่อด้วยสายการตลาดแบรนด์อื่นๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นหนึ่งในผู้สร้าง สถาบันความคิดสร้างสรรค์ หรือ Academy of Business Creativity ขึ้นมา




ตัวเอ็มเองเคยได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่คุณธนาเขียน รู้สึกประทับใจแนวคิดบวกของคุณเขามาก วันนี้ยิ่งได้เข้าใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ในนิยามของคุณธนานั้น คือการที่เราเจอปัญหา บวกกับ ทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น ยิ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจหลายๆอย่างขึ้นไปอีก 

ตัวอย่างที่คุณธนานำมาแบ่งปันมีหลายอย่างมากแต่ที่ประทับใจที่สุด คือ แคมเปญของ การรถไฟในเมืองหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ มีชื่อแคมเปญว่า
"Dumb Way to Die" 

สาเหตุคือ มีคนหลายคนที่เดินไม่ดู ทางแล้วผลัดตกลงไปรางรถไฟบ่อยมากทำให้เกิดการเสียชีวิตเกิดขึ้น 
ด้วยทุนที่มีจำกัด ทำให้เกิด แคมเปญที่ชื่อว่า "Dumb Way to Die" 


เอ็มคิดว่าหลายคนอาจจะ รู้จัก แคมเปญนี่แล้ว หากใครยังเคยชมลองชมดูเลยค่ะ




ความคิดคือ การสร้างสิ่งที่ต้องฟัง กลายเป็นสิ่งที่น่าฟัง แคมเปญนี่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจาก ปัญหาบวกกับทรัพยากรที่มีจำกัดละคะ

สรุปคร่าวๆ ความคิดสร้างสรรค์ เกิดขึ้นได้ถ้า

1.เราชอบและรักในสิ่งที่ทำ จะทำให้เกิดความสุข
2.ความพยายาม และความอดทนคือ พรสวรรค์
3.การมีสมาธิ และใจจดจ่อ จะทำให้ภาพความสำเร็จชัดขึ้น
4.การทดลองทำเมื่อผิดพลาด แก้ไข

ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนอาจจะทราบแล้ว แต่วันนี้สิ่งที่คุณธนาพูด คือสิ่งที่คุณธนาเคยผ่านมาจริง หลายคนทราบแต่ไม่เคยทำจริง ไม่ว่าวันนี้เราจะทำการตลาดผ่าน offline หรือ online หลักการ 4 ข้อนี้ก็ใช้ได้เสมอ หวังว่าบทความวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ

แค่คุณเปลี่ยนมุมมอง ความคิดก็เปลี่ยนแล้วค่ะ 

:) 

Friday, December 13, 2013

# Hashtag แฮชเเท็ก ยอดฮิตใน Instagram


Photo Credit : Steamfeed.com 

การใส่เครื่องหมาย Hashtag หรือที่เราเคยพูดว่าเครื่องหมายสี่เหลี่ยมบนแป้นกดโทรศัพท์ของเรานั้น 
สำหรับ social media แล้วการ Hashtag มีต้นต่อที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในโลกของ Twitter การส่งข้อความสั้นๆ เร็ว แต่แพร่กระจายได้กว้างมาก หลังจากนั้นเมื่อ Application Instagram เข้ามาก่อน Hashtag ก็ถูกใช้มากขึ้นไปอีก สำหรับเฟสบุ๊คเองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาแม้ว่าอาจจะมีเสียงบอกกันว่ามันไม่ประสบความสำเร็จ แต่ว่าใจเย็นๆนะคะ ให้โอกาสเค้าหน่อย มันเริ่มจะเห็นผลสำหรับการจัดประเภทของข้อมูลทางการตลาดมากขึ้น 

Hashtag มีประโยชน์มากสำหรับการสื่อสาร เราสามารถจัดประเภทสินค้าของเรา รูปภาพ และเรื่องราวของเราได้โดยการใส่ #  หรือ Hashtag นำหน้า เผื่อเวลาที่ค้นต้องการค้นหาผลงานของเราเรื่องราวของเราไล่ไปตั้งแต่ปัจจุบันถึงอดีตแล้วมีผลงานอย่างไรบ้าง 

อย่างเช่นเอ็มมี Hashtag ที่สำคัญเรื่องงานใน instagram เอ็มจะจัด Hashtag ว่า




#themprojectyear1 เมื่อ ค้นหา keyword หรือคำที่เป็นคำสำคัญเช่นนี้แล้วก็จะเจองานที่เอ็มผ่านมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บางครั้ง การเพิ่มความสนใจ หรือสร้างการมองเห็นให้มากขึ้น อาจใช้ Hashtag สำหรับคำที่มีการ Hashtag มากที่สุด หรือมีการ ค้นหาถึงมากที่สุด 

สำหรับ instagram แล้วคำที่มีการ Hashtag มากที่สุดคือคำว่า

#love ลองลงมาเป็น friends fashion และ food ค่ะ 

แล้ว Hashtag จะช่วยคุณได้อย่างไร
1.สร้าง Hashtag สำหรับสินค้าของคุณ ผลงานของคุณ เพื่อเก็บเป็น Portfolio ง่ายต่อการตามดูเรื่องและสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
2.Hashtag ในคำที่ฮิตบ้าง เพื่อให้ดึงดูด กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อย่า Hashtag มั่วๆนะคะ จะได้ กลุ่มเป้าหมายที่ผิดไปและไม่มีคุณภาพค่า

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
allfacebook.com
mashable ค่ะ


It "Should Be" little cute corner in Bangkok

หายไปนานเพิ่งมีเวลากลับมาเขียน Blog สำหรับวันนี้ขอแนะนำร้านอาหารเล็กๆ น่ารักๆ แถวบ้านเอ็มค่ะ
ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน ฟิวส์ชั่นเข้ากับรสชาดเอเชียนิดๆ ขนมเค้ก เบเกอรี่ ร้านนี้ถือว่าเป็นร้าน Recommended เลยทีเดียวค่ะ 

หากมาทางพระร้ามเก้าให้เข้าซอยพระรามเก้า 43 ตามทางมาเรื่อยๆ ถึงหลังเดอะไนน์เลี้ยวขวาเป็นซอยพระรามเก้า 41 แยก 18 ค่ะ มีป้ายเขียนอยู่ว่า Cafe Should be เข้าไปในซอยทางซ้าย ร้านจะเป็นบ้านอยู่ทางด้านซ้ายมี มีที่จอดรถ มากสุดน่าจะประมาณ 6 คัน ถึง 7 คันค่ะ โดยประมาณ 

เข้ามาในร้านรู้สึกสบายๆ ด้วยโทนเทาเย็น แต่มีแสงสว่างจากข้างนอกเข้ามาทำให้ร้านไม่ทึบและไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ เป็นแบบบ้าน ของหมู่บ้านเสรี ที่มาแบบนี้มานานหลายสิบปี ที่รู้เพราะเคยอาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านนี้ค่ะ 



มีนํ้าผลไม้และบราวนี่วางจำหน่ายไว้ 

เราเริ่มลงมือสั่งอาหาร ด้วยจำนวนโต๊ะที่ไม่มากนัก บรรยากาศฤดูหนาวบ้านเรา มีลมพัดสบายๆ รู้สึกอารมณ์ดีที่ได้นั่งในร้านค่ะ


เรามากับน้องชายสองคนวันนี้เริ่มจาก อาหารทานเล่น ตับบด(Pate)และขนมปังค่ะ อร่อยค่ะ รสชาดไม่เลี่ยน ทานกับขนมปังแล้วยิ่งเข้ากัน ทานจนขนมปังหมดก็เสียดาย Pate ที่เหลือ ต้องทานจนหมดเลยค่ะ


นอกจากเมนูอาหารฝรั่งแล้วยังมีเมนูอาหารไทยแนวฟิวส์ชั่นเล็กๆ จานนี้คือ ฉู่ฉี่ปลาเเซลมอนค่ะ และที่เคยสั่งในรอบถัดๆมาจะมา เมี่ยงเเซลมอน ข้าวผัดกะหลํ่าปลีเบคอน รสชาดใช้ได้เลยค่ะ ไม่หนักจนเกินไป 

จาดถัดมาคือ สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง วาซาบิ หากคุณผู้หญิงท่านใดทานไม่เก่ง สามารถสั่ง แล้วมาแบ่งกับเพื่อนได้เลยค่ะ เพราะเอ็มก็ทานไม่หมด แต่ชอบทาน สำหรับจานนี้ เมื่อคลุกวาซาบิแล้วทำให้รสชาดจัดจ้านขึ้นมา ตัดเลี่ยนไปได้ง่ายๆ เป็น recommened dish ค่ะ 


ตบท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อที่นี้คือ Brownie ค่ะ เนื้อสัมผัสด้านนอกจะกรอบนิดๆ สำหรับด้านในจะนุ่ม ทานกับกล้วยหอมและครีมเนื้อเบาๆ แบ่งกับเพื่อนนะคะ จะได้ทานหมดและอร่อยด้วย 


เครื่องดื่ม blue hawaii ก็แนะนำค่ะน้องชายชอบมาก 

อาหารที่ได้ทานรอบถัดมา มีหอยลายอบชีส อร่อยมาก 
และอาหารเมนูพาสต้าต่างๆค่ะ 

โทรจองที่นั่งก่อนได้เลยค่ะ
 089 444 6289 






Sunday, November 24, 2013

งานดีๆปีละหน : Thailand Online Marketing 2013

Blog แรกสำหรับ Social Media Marketing และ Blog ต่อไปในหัวข้อนี้ ขอให้ติดตามนะคะ ไม่รับรองและไม่สัญญาว่าเนื้อหาจะดีที่สุดสำหรับคุณ แต่รับรองได้ว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ

งานดีๆปีละหน...... 3 ปีที่ผ่านมาพยายามมองหา Exhibition การแสดงงาน งานสัมมนาใหญ่ๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ Online Marketing ที่แท้จริง เวลาที่มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนในธุรกิจ Internet Marketing มักจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับโลกออนไลน์กัน บ้านของเพื่อนมีงานดีๆประจำปีทุกปีและดูเหมือนว่าตลาดโลกออนไลน์จะ เข้มข้นและมีความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากมายในทุกๆปี

ปีนี้ได้มีโอกาส ได้รู้จักกับผู้จัดงาน ถือว่าเป็นแรงดึงดูดจริงๆที่ได้เจอคนเก่งๆอย่างทีมงาน Itopplus ค่ะ
งานมีจัดขึ้นเมื่อวาน คือวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ศูนย์สิริกิตต์

รายละเอียดพอจะเห็นจากเว็บไซต์แล้วว่าภายในงานจะมีการแบ่งโซนออกเป็น 4 โซนหลัก คือโซนให้ความรู้ โซนโชว์เคส โซนการแสดงเทคโนโลยีใหม่ โซน online marketing clinic แต่ที่เด็ดที่สุดคือโซนที่ 5 โซนห้องสัมมนา ที่ดูรายชื่อ guest speaker แต่ละคนแล้ว เด่นๆ ทั้งนั้น เอาเป็นว่าเข้าไปในงานกันเลยดีกว่าค่ะ ภาพอาจไม่ชัดเท่าไหร่นะคะ โทรศัพท์ รุ่นสี่จาก ค่ายผลไม้ค่า



ไม่ได้ทำการลงทะเบียนออนไลน์เลยต้องลงทะเบียนหน้างาน สบายๆค่ะ 

เดินเข้าไปภายในงาน ทางด้านขวาจะเป็นบอร์ดรายละเอียดเกี่ยวกับผู้จัดงานและทีมงานที่เก่งๆค่ะ


โซนที่ชอบรองจากโซนสัมมนาแล้วคือโซน knowledge ค่ะ ให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่อง online marketing ที่ไม่ได้มีแค่ ช่องทางเดียว ทุกช่องทางมีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค google adwords อีเมลล์และโซเชี่ยลมีเดีย อื่นๆ บอร์ดการให้ความรู้นี้ ถูกจัดทำเป็นการให้ความรู้แบบเข้าใจง่าย และให้ประโยชน์ทั้งคนที่ทราบเกี่ยวกับออนไลน์มาร์เก็ตติ้งแล้ว หรือไม่ทราบเลย ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆเลยค่ะ 

เพราะเวลาที่เอ็มจัดคอร์ส Facebook Marketing ก็มักจะบอกผู้เข้าร่วมคอร์สนั้นๆเสมอว่า Facebook เป็นอีกช่องทางให้ตลาดรู้จักคุณมากขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วคุณต้องรู้จักใช้เครื่องมืออื่นๆให้เชี่ยวชาญเพื่อเสริมกันด้วยค่ะ 


เข้าไปในโซนสัมมนา คนแน่นมากๆ ค่ะ เอ็มเข้าไปงานสายเลยไม่มีที่นั่งซะแล้ว เพราะงานสัมมนานี้ฟรี แถมได้ความรู้อีก ได้จังหวะที่เข้าไปส่วนของ maya online เป็นความรู้เรื่อง การโจรกรรมทางมือถือ น่าสนใจเลยที่เดียว



หลังจากนั้นได้รับความรู้จากคุณกัมพล ผู้ก่อตั้ง Itopplus เรื่อง google adwords ค่ะ ประโยคสำคัญและเป็นประโยชน์มากคือ 
"คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังขายอะไร และกำลังขายให้ใคร และนี่เป็นกุญแจสำคัญในการทำตลาดโดยใช้ google adwords เป็นเครื่องมือ" 
หลังจากนั้นมี google thailand และมี facebook singapore ขึ้นมาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดโดยใช้ เส้นทางออนไลน์ด้วยค่ะ 



หวังว่างานดีๆอย่างนี้จะมีอีกปีหน้า และหวังว่าคนไทยจะมีความตื่นเต้นและตื่นตัวกับเรื่อง digital marketing มากขึ้นอีกทั้งรู้คุณประโยชน์หากใช้ในทางที่ถูกและโทษหากใช้ในทางที่ผิดด้วยค่ะ 

Saturday, November 23, 2013

Chill night in BKK @ Octave Rooftop Lounge ,Marriot Sukhumvit

ปกติแล้วเวลาอยากจะชิลที่ Rooftop Lounge เราจะนึกถึงที่ banyantree 
และ red sky ที่ centara แต่เมื่อคืนนี้เป็นการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เราจึงไปที่
Octave Rooftop Lounge Marriot Sukhumvit 

โดยใช้เส้นทางจากทองหล่อ เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นสุขุมวิท ไปนิดเดียวก็จะถึง Marriot แล้วค่ะ
อาจจะดูเล็กๆ แต่เข้าไปแล้วบรรยากาศโรงแรมก็ดีรักษามาตรฐานเช่นเคยค่า
กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 45 

ถึงOctave ที่นั่งอาจจะไม่เยอะเท่ากับที่อื่นๆ แต่บรรยากาศไม่แพ้กันเลยค่ะ 







section ของ bar และโต๊ะไม้ หากคืนไหนอากาศไม่เย็น แนะนำให้นั่งริมติดบรรยากาศเลยนะคะ เพราะโต๊ะไม้จะอ้าวๆ บริกรบอกว่าเนื่องจากติดกับส่วนที่เป็น bar ทำด้วยหินดูดซับความร้อนค่ะ

มือใหม่ทำ บล็อก ถ่ายภาพมาไม่เยอะ วิว ฝั่งสุขุมวิท มองเข้าไปในเมืองกว้างๆ รู้สึกดีมากค่ะบรรยากาศไม่หรูจนเกินไป ที่นั่งด้านนอนติดบรรยากาศมีอยู่ไม่กี่โต๊ะค่ะ แนะนำให้โทรไปจองก่อน 02 797 0140





ไปกับเพื่อนสาวสองคน แล้วก็ทานซูชิมาแล้ว เลย order แค่ salmon teriyaki บวกกับ blooming berry mocktail นะคะ

เน้นบรรยากาศ หน่อยแต่ทิศทางลมยังไม่ดีเท่าที่ red sky บริการใช้ได้ สามารถพัฒนาได้อีกค่า
หากใครไม่อยากไปไกลถึง ในเมือง octave เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการนั่งชิล ชมวิวของกรุงเทพยามคํ่าคืนได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ซูชิ เดสเน๊ะ~ Honmono Sushi

สำหรับครั้งแรกในการเขียน blog เรื่องอาหาร....

ความจริงแล้ว กิจกรรมที่เอ็มทำเวลาว่างคือหาของกินค่ะ แต่กินแล้วต้องออกกำลังกายนะคะ เพราะอายุมากขึ้นระบบเผาผลาญไม่เหมือนเดิมแล้ว เราเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะสำหรับ blog อาหารแรก เป็นอาหารที่เอ็มชอบมากๆ และใครหลายๆคนก็คงชอบด้วยเช่นกัน ไม่ใช่อาหารชาติบ้านเรา มีแค่ปลากับข้าว เกิดจากความต้องการถนอมอาหารของชาวญี่ปุ่น แต่ว่า ..... เอ็มเคยไปพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นนะคะ เค้าบอกว่าต้นกำเนิดซูชิมาจากปลาร้าบ้านเรา อันนี้จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบแต่มีความคล้ายตรงที่การหมักข้าว การถนอมอาหาเนี่ยละคะ

ประจวบเหมาะว่าวันนี้อยากจะลองกล้องจากมือถือใหม่ ค่ายพี่เกาหลีด้วยเลยตัดสินใจไปร้าน senryu โดย GENKI SUSHI ตรง nihonmura ที่เปิดใหม่ซอยทองหล่อ 13 ค่ะ แต่ว่าไม่ได้ดูเวลา  ร้านเปิดช่วงกลางวันและอีกที ตอน 6 โมงเย็นค่ะ ตีรถกลับไปร้านที่เพื่อนบอกอร่อยมากและรีวิวหลายรีวิวบอกว่าสุดยอด คือ
โจชิซึ ซูชิ เอกมัยซอย2 เพราะเช็คแล้วในเฟสบุ๊คบอกว่าวันเสาร์เปิดตอน 11.30-22.30 แต่ว่า ดันนน ปิดพักเบรคค่ะ เปิดอีกทีตอน 17.30

เรามีนัดวันนี้ต้องตัดสินใจข้ามไปฝั่งตรงข้ามคือ Parklane เอกมัย และลิ้มลอง Honmono ค่ะ แม้ว่าจะมีคนทำรีวิวหลายคน แต่ปกติบอกตามตรง ที่ผ่านมาได้ลองแต่ KOKEN SUSHI ซึ่งตอนนี้ย้ายจากทองหล่อกลับไป นราธิวาสแล้ว ร้านโปรดเอ็มเลยค่ะ SUSHI MASA และ MUGENDAI
 ลองก็ลองดูค่ะ

จัดไปช่วง 4 โมงเย็นไม่มีลูกค้าเลยค่ะ สบายๆ สำหรับการนั่งทานคนเดียว เริ่มด้วย snacks กุ้ง ปลากรอบและถั่วแระ  ทานเพลินๆค่า



หลังจากนั้น ออร์เดอร์ซูชิก็มาเลยค่ะ วันนี้ทานคนเดียว เอาเบาๆก็พอ 

hamachi ลดราคา 50% เหลือ คำละ 80 บาท

Foie Gras

Akami

Salmon

Salmon ย่างราดมิโซะหวาน

เริ่มด้วย Akami
อืมมมมมม ไม่หวือหวานะคะ ตรงๆคือเฉยๆ



ต่อด้วย hamachi รสชาดคุ้มค่าค่ะ แซลมอนรสชาดไม่ชุ่มเท่าไหร่ กับแซลมอนราดมิโซะหวาน หวานนำนะคะ ผสมกันได้ดีในระดับหนึ่งทานกับขิงดองแก้เลี่ยนยิ่งดีเลยค่ะ





โดยรวมแล้ว ใช้ได้แต่เอ็มคาดหวังไว้เยอะกว่านี้ค่ะ ข้อดีคือเนื้อปลาชิ้นใหญ่หุ้มข้าวซูชิ ปากเล็กปากน้อยไม่สามารถทานได้หมด 1 คำ ฟรัวการ์ส ของที่ kokensushi ให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำกว่า แต่ซอสของทาง honmono ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ไม่เลี่ยนจนเกินไป 



ตบท้ายด้วยเมลอน รู้สึกดีตรงนี้ละคะ เหมือนมีผลไม้มาล้างปากให้สดชื่นขึ้น

ใช้ได้ค่ะ แต่เทียบความคุ้มค่ากับราคาแล้ว อืมมม ยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่

ครั้งต่อไป เซนริวกับโจชิซึ เจอกันแน่ค่า