Thursday, December 19, 2013

คริสมาสต์...การให้...กับโซเชี่ยลมีเดีย (Christmas+Give+Social Media) = A better world






ปี 2013 ที่ผ่านมาโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ถ้า ณ วันนี้เราคงบอกว่าสภาพอากาศกรุงเทพฯเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่ถ้าย้อนกลับไปดู และมองออกไปดูโลกของคนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกรุงเทพแล้ว ปีที่ผ่านมา มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์กระทบกระเทือน ทั้ง ทุนทรัพย์ จิตใจ ร่างกาย และชีวิต ของคนหลายๆคน ใกล้คริสมาสต์ปีนี้ เอ็มขอหยิบประเด็นของ Viral Marketing (Viral แปลว่า กระแส ,Marketing แปลว่า การตลาด) การสร้างกระแสก็เป็นส่วนหนึ่งของการตลาด  บวกกับเทรนด์ในปี 2014 นี้ Video จะเป็นที่นิยมกันมากขึ้น บอกเปรยๆว่า ทางเฟสบุ๊คก็เริ่มปล่อยให้ทำโฆษณาเป็นวิดีโอแล้ว ถ้าคอนเฟิร์มอย่างไรจะบอกอีกทีนะคะ



กรณีตัวอย่างสำหรับวันนี้คือ วิดีโอที่ทำขึ้นมาเพื่อโปรโมทหนัง เรื่อง "The Secret Life of Walter Mitty"
Casey Neistat นักทำหนังชาวอเมริกัน ได้รับอีเมลล์จาก เอเจนซี่โฆษณาเจ้าใหญ่ที่รับงานมาจาก 20 century fox อีกทีให้ทำหนังสั้นเพื่อสร้างกระแสให้กับหนังเรื่อง "The Secret Life of Walter Mitty" อีกที คอนเซปต์คือ Live your dream หรือทำตามฝันของคุณ  หนังสั้นสร้างกระแสให้ผู้คน กล้าทำในสิ่งไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิตและทำอย่างที่เคยฝันไว้

20 century fox ตอบรับเงื่อนไขรูปแบบวิดีโอนี้ค่ะ

ด้วยงบประะมาณ 25,000 ดอลล่าร์ หรือเป็นเงินไทยคือ 800,000 บาท คุณ Casey จึงสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ วิดีโอหนังสั้นโดยใช้เงินทั้งหมด 800,000 บาทเพื่อช่วยผู้ประสบภัยไต้ฝุ่น ในฟิลลิปปินส์ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทุกผ่านทุกสตางค์ ใช้ไปกับถุงยังชีพที่ นำไปบริจาคค่ะ วิดีโอ ไม่ได้พูดถึงตัวละครของหนัง แต่วิดีโอ ทำให้เรารู้จักชื่อของหนัง ผ่านกระแสนี้ กระแสทางบวก การช่วยเหลือผู้อื่นผ่านสิ่งที่คุณต้องการทำตามความฝันของคุณได้ 


"What would you do with $25,000" ชมได้เลยค่ะ





คิด สร้างกระแสเชิงบวก และลงมือทำค่ะ ผลจะกลับมาหาคุณไม่ช้าก็เร็ว
Merry Pre-Christmas ค่ะ

Monday, December 16, 2013

Creativity : ปัญหา + ทรัพยากรที่มีจำกัด = ความคิดสร้างสรรค์

Create + Activity 
=
Creativity 

วันนี้มีโอกาสได้ฟังบรรยายของคุณ ธนา เธียรอัจฉริยะ 
ผู้ที่เป็นหนึ่งในผู้สร้างตำนานใหม่ให้กับ Happy Dtac

แบรนด์ยิ้มๆ ดูมีความสุข 
การบรรยายครั้งนี้เป็นการบรรยายที่มีหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์ โดยช่วงต้นคุณธนาได้บรรยายเกี่ยวกับเรื่องราวของคุณธนาเอง ความเป็นมาในสายอาชีพ จากอาชีพ Flight Attendant หรือ สจ๊วต ของสายการบินแห่งหนึ่งในสหรัฐ อเมริกา หลังจากนั้นได้ทำสายอาชีพทางการเงิน และเข้าสู่ DTAC ต่อด้วยสายการตลาดแบรนด์อื่นๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นหนึ่งในผู้สร้าง สถาบันความคิดสร้างสรรค์ หรือ Academy of Business Creativity ขึ้นมา




ตัวเอ็มเองเคยได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่คุณธนาเขียน รู้สึกประทับใจแนวคิดบวกของคุณเขามาก วันนี้ยิ่งได้เข้าใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ในนิยามของคุณธนานั้น คือการที่เราเจอปัญหา บวกกับ ทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น ยิ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจหลายๆอย่างขึ้นไปอีก 

ตัวอย่างที่คุณธนานำมาแบ่งปันมีหลายอย่างมากแต่ที่ประทับใจที่สุด คือ แคมเปญของ การรถไฟในเมืองหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ มีชื่อแคมเปญว่า
"Dumb Way to Die" 

สาเหตุคือ มีคนหลายคนที่เดินไม่ดู ทางแล้วผลัดตกลงไปรางรถไฟบ่อยมากทำให้เกิดการเสียชีวิตเกิดขึ้น 
ด้วยทุนที่มีจำกัด ทำให้เกิด แคมเปญที่ชื่อว่า "Dumb Way to Die" 


เอ็มคิดว่าหลายคนอาจจะ รู้จัก แคมเปญนี่แล้ว หากใครยังเคยชมลองชมดูเลยค่ะ




ความคิดคือ การสร้างสิ่งที่ต้องฟัง กลายเป็นสิ่งที่น่าฟัง แคมเปญนี่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจาก ปัญหาบวกกับทรัพยากรที่มีจำกัดละคะ

สรุปคร่าวๆ ความคิดสร้างสรรค์ เกิดขึ้นได้ถ้า

1.เราชอบและรักในสิ่งที่ทำ จะทำให้เกิดความสุข
2.ความพยายาม และความอดทนคือ พรสวรรค์
3.การมีสมาธิ และใจจดจ่อ จะทำให้ภาพความสำเร็จชัดขึ้น
4.การทดลองทำเมื่อผิดพลาด แก้ไข

ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนอาจจะทราบแล้ว แต่วันนี้สิ่งที่คุณธนาพูด คือสิ่งที่คุณธนาเคยผ่านมาจริง หลายคนทราบแต่ไม่เคยทำจริง ไม่ว่าวันนี้เราจะทำการตลาดผ่าน offline หรือ online หลักการ 4 ข้อนี้ก็ใช้ได้เสมอ หวังว่าบทความวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ

แค่คุณเปลี่ยนมุมมอง ความคิดก็เปลี่ยนแล้วค่ะ 

:) 

Friday, December 13, 2013

# Hashtag แฮชเเท็ก ยอดฮิตใน Instagram


Photo Credit : Steamfeed.com 

การใส่เครื่องหมาย Hashtag หรือที่เราเคยพูดว่าเครื่องหมายสี่เหลี่ยมบนแป้นกดโทรศัพท์ของเรานั้น 
สำหรับ social media แล้วการ Hashtag มีต้นต่อที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในโลกของ Twitter การส่งข้อความสั้นๆ เร็ว แต่แพร่กระจายได้กว้างมาก หลังจากนั้นเมื่อ Application Instagram เข้ามาก่อน Hashtag ก็ถูกใช้มากขึ้นไปอีก สำหรับเฟสบุ๊คเองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาแม้ว่าอาจจะมีเสียงบอกกันว่ามันไม่ประสบความสำเร็จ แต่ว่าใจเย็นๆนะคะ ให้โอกาสเค้าหน่อย มันเริ่มจะเห็นผลสำหรับการจัดประเภทของข้อมูลทางการตลาดมากขึ้น 

Hashtag มีประโยชน์มากสำหรับการสื่อสาร เราสามารถจัดประเภทสินค้าของเรา รูปภาพ และเรื่องราวของเราได้โดยการใส่ #  หรือ Hashtag นำหน้า เผื่อเวลาที่ค้นต้องการค้นหาผลงานของเราเรื่องราวของเราไล่ไปตั้งแต่ปัจจุบันถึงอดีตแล้วมีผลงานอย่างไรบ้าง 

อย่างเช่นเอ็มมี Hashtag ที่สำคัญเรื่องงานใน instagram เอ็มจะจัด Hashtag ว่า




#themprojectyear1 เมื่อ ค้นหา keyword หรือคำที่เป็นคำสำคัญเช่นนี้แล้วก็จะเจองานที่เอ็มผ่านมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บางครั้ง การเพิ่มความสนใจ หรือสร้างการมองเห็นให้มากขึ้น อาจใช้ Hashtag สำหรับคำที่มีการ Hashtag มากที่สุด หรือมีการ ค้นหาถึงมากที่สุด 

สำหรับ instagram แล้วคำที่มีการ Hashtag มากที่สุดคือคำว่า

#love ลองลงมาเป็น friends fashion และ food ค่ะ 

แล้ว Hashtag จะช่วยคุณได้อย่างไร
1.สร้าง Hashtag สำหรับสินค้าของคุณ ผลงานของคุณ เพื่อเก็บเป็น Portfolio ง่ายต่อการตามดูเรื่องและสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
2.Hashtag ในคำที่ฮิตบ้าง เพื่อให้ดึงดูด กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อย่า Hashtag มั่วๆนะคะ จะได้ กลุ่มเป้าหมายที่ผิดไปและไม่มีคุณภาพค่า

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
allfacebook.com
mashable ค่ะ


It "Should Be" little cute corner in Bangkok

หายไปนานเพิ่งมีเวลากลับมาเขียน Blog สำหรับวันนี้ขอแนะนำร้านอาหารเล็กๆ น่ารักๆ แถวบ้านเอ็มค่ะ
ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน ฟิวส์ชั่นเข้ากับรสชาดเอเชียนิดๆ ขนมเค้ก เบเกอรี่ ร้านนี้ถือว่าเป็นร้าน Recommended เลยทีเดียวค่ะ 

หากมาทางพระร้ามเก้าให้เข้าซอยพระรามเก้า 43 ตามทางมาเรื่อยๆ ถึงหลังเดอะไนน์เลี้ยวขวาเป็นซอยพระรามเก้า 41 แยก 18 ค่ะ มีป้ายเขียนอยู่ว่า Cafe Should be เข้าไปในซอยทางซ้าย ร้านจะเป็นบ้านอยู่ทางด้านซ้ายมี มีที่จอดรถ มากสุดน่าจะประมาณ 6 คัน ถึง 7 คันค่ะ โดยประมาณ 

เข้ามาในร้านรู้สึกสบายๆ ด้วยโทนเทาเย็น แต่มีแสงสว่างจากข้างนอกเข้ามาทำให้ร้านไม่ทึบและไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ เป็นแบบบ้าน ของหมู่บ้านเสรี ที่มาแบบนี้มานานหลายสิบปี ที่รู้เพราะเคยอาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านนี้ค่ะ 



มีนํ้าผลไม้และบราวนี่วางจำหน่ายไว้ 

เราเริ่มลงมือสั่งอาหาร ด้วยจำนวนโต๊ะที่ไม่มากนัก บรรยากาศฤดูหนาวบ้านเรา มีลมพัดสบายๆ รู้สึกอารมณ์ดีที่ได้นั่งในร้านค่ะ


เรามากับน้องชายสองคนวันนี้เริ่มจาก อาหารทานเล่น ตับบด(Pate)และขนมปังค่ะ อร่อยค่ะ รสชาดไม่เลี่ยน ทานกับขนมปังแล้วยิ่งเข้ากัน ทานจนขนมปังหมดก็เสียดาย Pate ที่เหลือ ต้องทานจนหมดเลยค่ะ


นอกจากเมนูอาหารฝรั่งแล้วยังมีเมนูอาหารไทยแนวฟิวส์ชั่นเล็กๆ จานนี้คือ ฉู่ฉี่ปลาเเซลมอนค่ะ และที่เคยสั่งในรอบถัดๆมาจะมา เมี่ยงเเซลมอน ข้าวผัดกะหลํ่าปลีเบคอน รสชาดใช้ได้เลยค่ะ ไม่หนักจนเกินไป 

จาดถัดมาคือ สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง วาซาบิ หากคุณผู้หญิงท่านใดทานไม่เก่ง สามารถสั่ง แล้วมาแบ่งกับเพื่อนได้เลยค่ะ เพราะเอ็มก็ทานไม่หมด แต่ชอบทาน สำหรับจานนี้ เมื่อคลุกวาซาบิแล้วทำให้รสชาดจัดจ้านขึ้นมา ตัดเลี่ยนไปได้ง่ายๆ เป็น recommened dish ค่ะ 


ตบท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อที่นี้คือ Brownie ค่ะ เนื้อสัมผัสด้านนอกจะกรอบนิดๆ สำหรับด้านในจะนุ่ม ทานกับกล้วยหอมและครีมเนื้อเบาๆ แบ่งกับเพื่อนนะคะ จะได้ทานหมดและอร่อยด้วย 


เครื่องดื่ม blue hawaii ก็แนะนำค่ะน้องชายชอบมาก 

อาหารที่ได้ทานรอบถัดมา มีหอยลายอบชีส อร่อยมาก 
และอาหารเมนูพาสต้าต่างๆค่ะ 

โทรจองที่นั่งก่อนได้เลยค่ะ
 089 444 6289 






Sunday, November 24, 2013

งานดีๆปีละหน : Thailand Online Marketing 2013

Blog แรกสำหรับ Social Media Marketing และ Blog ต่อไปในหัวข้อนี้ ขอให้ติดตามนะคะ ไม่รับรองและไม่สัญญาว่าเนื้อหาจะดีที่สุดสำหรับคุณ แต่รับรองได้ว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ

งานดีๆปีละหน...... 3 ปีที่ผ่านมาพยายามมองหา Exhibition การแสดงงาน งานสัมมนาใหญ่ๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ Online Marketing ที่แท้จริง เวลาที่มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนในธุรกิจ Internet Marketing มักจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับโลกออนไลน์กัน บ้านของเพื่อนมีงานดีๆประจำปีทุกปีและดูเหมือนว่าตลาดโลกออนไลน์จะ เข้มข้นและมีความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากมายในทุกๆปี

ปีนี้ได้มีโอกาส ได้รู้จักกับผู้จัดงาน ถือว่าเป็นแรงดึงดูดจริงๆที่ได้เจอคนเก่งๆอย่างทีมงาน Itopplus ค่ะ
งานมีจัดขึ้นเมื่อวาน คือวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ศูนย์สิริกิตต์

รายละเอียดพอจะเห็นจากเว็บไซต์แล้วว่าภายในงานจะมีการแบ่งโซนออกเป็น 4 โซนหลัก คือโซนให้ความรู้ โซนโชว์เคส โซนการแสดงเทคโนโลยีใหม่ โซน online marketing clinic แต่ที่เด็ดที่สุดคือโซนที่ 5 โซนห้องสัมมนา ที่ดูรายชื่อ guest speaker แต่ละคนแล้ว เด่นๆ ทั้งนั้น เอาเป็นว่าเข้าไปในงานกันเลยดีกว่าค่ะ ภาพอาจไม่ชัดเท่าไหร่นะคะ โทรศัพท์ รุ่นสี่จาก ค่ายผลไม้ค่า



ไม่ได้ทำการลงทะเบียนออนไลน์เลยต้องลงทะเบียนหน้างาน สบายๆค่ะ 

เดินเข้าไปภายในงาน ทางด้านขวาจะเป็นบอร์ดรายละเอียดเกี่ยวกับผู้จัดงานและทีมงานที่เก่งๆค่ะ


โซนที่ชอบรองจากโซนสัมมนาแล้วคือโซน knowledge ค่ะ ให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่อง online marketing ที่ไม่ได้มีแค่ ช่องทางเดียว ทุกช่องทางมีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค google adwords อีเมลล์และโซเชี่ยลมีเดีย อื่นๆ บอร์ดการให้ความรู้นี้ ถูกจัดทำเป็นการให้ความรู้แบบเข้าใจง่าย และให้ประโยชน์ทั้งคนที่ทราบเกี่ยวกับออนไลน์มาร์เก็ตติ้งแล้ว หรือไม่ทราบเลย ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆเลยค่ะ 

เพราะเวลาที่เอ็มจัดคอร์ส Facebook Marketing ก็มักจะบอกผู้เข้าร่วมคอร์สนั้นๆเสมอว่า Facebook เป็นอีกช่องทางให้ตลาดรู้จักคุณมากขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วคุณต้องรู้จักใช้เครื่องมืออื่นๆให้เชี่ยวชาญเพื่อเสริมกันด้วยค่ะ 


เข้าไปในโซนสัมมนา คนแน่นมากๆ ค่ะ เอ็มเข้าไปงานสายเลยไม่มีที่นั่งซะแล้ว เพราะงานสัมมนานี้ฟรี แถมได้ความรู้อีก ได้จังหวะที่เข้าไปส่วนของ maya online เป็นความรู้เรื่อง การโจรกรรมทางมือถือ น่าสนใจเลยที่เดียว



หลังจากนั้นได้รับความรู้จากคุณกัมพล ผู้ก่อตั้ง Itopplus เรื่อง google adwords ค่ะ ประโยคสำคัญและเป็นประโยชน์มากคือ 
"คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังขายอะไร และกำลังขายให้ใคร และนี่เป็นกุญแจสำคัญในการทำตลาดโดยใช้ google adwords เป็นเครื่องมือ" 
หลังจากนั้นมี google thailand และมี facebook singapore ขึ้นมาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดโดยใช้ เส้นทางออนไลน์ด้วยค่ะ 



หวังว่างานดีๆอย่างนี้จะมีอีกปีหน้า และหวังว่าคนไทยจะมีความตื่นเต้นและตื่นตัวกับเรื่อง digital marketing มากขึ้นอีกทั้งรู้คุณประโยชน์หากใช้ในทางที่ถูกและโทษหากใช้ในทางที่ผิดด้วยค่ะ 

Saturday, November 23, 2013

Chill night in BKK @ Octave Rooftop Lounge ,Marriot Sukhumvit

ปกติแล้วเวลาอยากจะชิลที่ Rooftop Lounge เราจะนึกถึงที่ banyantree 
และ red sky ที่ centara แต่เมื่อคืนนี้เป็นการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เราจึงไปที่
Octave Rooftop Lounge Marriot Sukhumvit 

โดยใช้เส้นทางจากทองหล่อ เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นสุขุมวิท ไปนิดเดียวก็จะถึง Marriot แล้วค่ะ
อาจจะดูเล็กๆ แต่เข้าไปแล้วบรรยากาศโรงแรมก็ดีรักษามาตรฐานเช่นเคยค่า
กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 45 

ถึงOctave ที่นั่งอาจจะไม่เยอะเท่ากับที่อื่นๆ แต่บรรยากาศไม่แพ้กันเลยค่ะ 







section ของ bar และโต๊ะไม้ หากคืนไหนอากาศไม่เย็น แนะนำให้นั่งริมติดบรรยากาศเลยนะคะ เพราะโต๊ะไม้จะอ้าวๆ บริกรบอกว่าเนื่องจากติดกับส่วนที่เป็น bar ทำด้วยหินดูดซับความร้อนค่ะ

มือใหม่ทำ บล็อก ถ่ายภาพมาไม่เยอะ วิว ฝั่งสุขุมวิท มองเข้าไปในเมืองกว้างๆ รู้สึกดีมากค่ะบรรยากาศไม่หรูจนเกินไป ที่นั่งด้านนอนติดบรรยากาศมีอยู่ไม่กี่โต๊ะค่ะ แนะนำให้โทรไปจองก่อน 02 797 0140





ไปกับเพื่อนสาวสองคน แล้วก็ทานซูชิมาแล้ว เลย order แค่ salmon teriyaki บวกกับ blooming berry mocktail นะคะ

เน้นบรรยากาศ หน่อยแต่ทิศทางลมยังไม่ดีเท่าที่ red sky บริการใช้ได้ สามารถพัฒนาได้อีกค่า
หากใครไม่อยากไปไกลถึง ในเมือง octave เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการนั่งชิล ชมวิวของกรุงเทพยามคํ่าคืนได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ซูชิ เดสเน๊ะ~ Honmono Sushi

สำหรับครั้งแรกในการเขียน blog เรื่องอาหาร....

ความจริงแล้ว กิจกรรมที่เอ็มทำเวลาว่างคือหาของกินค่ะ แต่กินแล้วต้องออกกำลังกายนะคะ เพราะอายุมากขึ้นระบบเผาผลาญไม่เหมือนเดิมแล้ว เราเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะสำหรับ blog อาหารแรก เป็นอาหารที่เอ็มชอบมากๆ และใครหลายๆคนก็คงชอบด้วยเช่นกัน ไม่ใช่อาหารชาติบ้านเรา มีแค่ปลากับข้าว เกิดจากความต้องการถนอมอาหารของชาวญี่ปุ่น แต่ว่า ..... เอ็มเคยไปพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นนะคะ เค้าบอกว่าต้นกำเนิดซูชิมาจากปลาร้าบ้านเรา อันนี้จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบแต่มีความคล้ายตรงที่การหมักข้าว การถนอมอาหาเนี่ยละคะ

ประจวบเหมาะว่าวันนี้อยากจะลองกล้องจากมือถือใหม่ ค่ายพี่เกาหลีด้วยเลยตัดสินใจไปร้าน senryu โดย GENKI SUSHI ตรง nihonmura ที่เปิดใหม่ซอยทองหล่อ 13 ค่ะ แต่ว่าไม่ได้ดูเวลา  ร้านเปิดช่วงกลางวันและอีกที ตอน 6 โมงเย็นค่ะ ตีรถกลับไปร้านที่เพื่อนบอกอร่อยมากและรีวิวหลายรีวิวบอกว่าสุดยอด คือ
โจชิซึ ซูชิ เอกมัยซอย2 เพราะเช็คแล้วในเฟสบุ๊คบอกว่าวันเสาร์เปิดตอน 11.30-22.30 แต่ว่า ดันนน ปิดพักเบรคค่ะ เปิดอีกทีตอน 17.30

เรามีนัดวันนี้ต้องตัดสินใจข้ามไปฝั่งตรงข้ามคือ Parklane เอกมัย และลิ้มลอง Honmono ค่ะ แม้ว่าจะมีคนทำรีวิวหลายคน แต่ปกติบอกตามตรง ที่ผ่านมาได้ลองแต่ KOKEN SUSHI ซึ่งตอนนี้ย้ายจากทองหล่อกลับไป นราธิวาสแล้ว ร้านโปรดเอ็มเลยค่ะ SUSHI MASA และ MUGENDAI
 ลองก็ลองดูค่ะ

จัดไปช่วง 4 โมงเย็นไม่มีลูกค้าเลยค่ะ สบายๆ สำหรับการนั่งทานคนเดียว เริ่มด้วย snacks กุ้ง ปลากรอบและถั่วแระ  ทานเพลินๆค่า



หลังจากนั้น ออร์เดอร์ซูชิก็มาเลยค่ะ วันนี้ทานคนเดียว เอาเบาๆก็พอ 

hamachi ลดราคา 50% เหลือ คำละ 80 บาท

Foie Gras

Akami

Salmon

Salmon ย่างราดมิโซะหวาน

เริ่มด้วย Akami
อืมมมมมม ไม่หวือหวานะคะ ตรงๆคือเฉยๆ



ต่อด้วย hamachi รสชาดคุ้มค่าค่ะ แซลมอนรสชาดไม่ชุ่มเท่าไหร่ กับแซลมอนราดมิโซะหวาน หวานนำนะคะ ผสมกันได้ดีในระดับหนึ่งทานกับขิงดองแก้เลี่ยนยิ่งดีเลยค่ะ





โดยรวมแล้ว ใช้ได้แต่เอ็มคาดหวังไว้เยอะกว่านี้ค่ะ ข้อดีคือเนื้อปลาชิ้นใหญ่หุ้มข้าวซูชิ ปากเล็กปากน้อยไม่สามารถทานได้หมด 1 คำ ฟรัวการ์ส ของที่ kokensushi ให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำกว่า แต่ซอสของทาง honmono ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ไม่เลี่ยนจนเกินไป 



ตบท้ายด้วยเมลอน รู้สึกดีตรงนี้ละคะ เหมือนมีผลไม้มาล้างปากให้สดชื่นขึ้น

ใช้ได้ค่ะ แต่เทียบความคุ้มค่ากับราคาแล้ว อืมมม ยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่

ครั้งต่อไป เซนริวกับโจชิซึ เจอกันแน่ค่า







Saturday, August 17, 2013

ที่พักแบบ Hostel ที่สิงคโปร์


เดี๋ยววันนี้เอ็มจะให้ข้อมูล hostel ที่เอ็มเคยไปพักนะคะ สาเหตุที่พักหลังเลือกบริการแบบ hostel ที่สิงคโปร์เนื่องจากว่าไปบ่อยแล้วค่าใช้จ่ายโรงแรมแต่ละครั้งที่สิงคโปร์ค่อนข้างแพงค่ะ อีกอย่างไปคนเดียวยิ่งไม่คุ้มเท่าไหร่ เลยเริ่มหาทางเลือกที่จะพักได้อย่างสะดวก ประหยัด สะอาด ปลอดภัยค่ะ หากเรา search หาข้อมูลใน agoda เราจะทราบเลยว่า มีที่พักหลายแบบให้เลือก ถ้าเรียงตั้งแต่ราคาถูกขึ้นไปแพง จะรู้ว่ารายชื่อที่พักต้นๆจะเป็น hostel ทั้งนั้นเลยค่ะ

hostel ที่สิงคโปร์ที่เอ็มเคยใช้บริการมามี 2 ที่ค่ะ
1.Bunc Hostel Radius @Clark Quay
2.ABC Premium Hostel ค่ะ
สำหรับ ABC Premium Hostel ได้มีโอกาสพาทีมงานของบริษัทไปเที่ยวเพื่อเป็นโบนัสให้กับชีวิตการทำงาน เราไปกัน 6 คน ผู้หญิงหมดเลยค่ะ การพัก Hostel หากเป็นคนที่นอนหลับยาก ตื่นง่ายมีเสียงอะไรนิดหน่อยก็ตื่น ก็ไม่ค่อยแนะนำให้พักนะคะ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพแล้วเที่ยวไม่สนุก
การพักแบบ hostel มีห้องหลายแบบค่ะ ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1.Mixed Dorm
2.Female Dorm

ลักษณะที่พักคล้ายๆหอค่ะ ก็สนุกดีนะคะ เป็นประสบการณ์อีกแบบคือการนอนเตียง 2 ชั้น ถ้าใครมีปัญหาเรื่องเข่า หรือ ขาไม่แนะนำให้นอนเตียงชั้นบนเพราะปีนขึ้นค่อนข้างลำบากนิดนึงค่ะ
แบบ Mixed Dorm จะเป็นส่วนที่รวมไม่แบ่งเพศนะคะ คือหนึ่งห้องจะมีประมาณ 8 เตียง วาง position 4 ที่
4 * 2 = 8เตียงค่ะ ส่วนใหญ่แล้ว ฝรั่งจะใช้บริการเยอะค่ะ ถ้าเป็น female dormจะเป็นส่วนของหอพักหญิงหมดเลยนะคะ
เริ่มจาก ABC Premium Hostel ก่อนนะคะ

ABC Premium Hostel อยู่ช่วงของ Ferrer Park Station สถานีนี้ เอ็มไม่ได้เช็คก่อนค่ะ เนื่องจากเป็น hostel ของเพื่อนของเพื่อน จึงเลือก ตอนนั้นหาที่พักไม่ทันจริงๆ สรุปคือ ตรง Ferrer Park มีพี่แขกค่อนข้างเยอะเลยค่ะเดี๋ยวเอ็มจะ point ให้ค่ะว่าไกลจากสถานียอดฮิตของคนไทยแค่ไหน (Orchard Station)

ภาพที่เห็นเป็นแผนที่รถไฟฟ้า หรือ MRT ที่สิงคโปร์ค่ะ สำหรับ ABC Premium Hostel จะอยู่ตรง Ferrer Park สาย NE สีม่วง วิธีการนั่งรถไฟไป Orchard ก็คือ
นั่งไปทาง Harbour Front ลงสถานี Dhoby Ghaut ต่อสายสีแดงที่มุ่งหน้าไป Jurong East ผ่าน Somerset สถานนีต่อไปก็ Orchard แล้วค่ะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ไม่เกิน 20 นาที
 https://www.facebook.com/pages/ABC-Premium-Hostel-Pte-Ltd/


เอ็มไม่ได้เก็บรูปมาให้อีกแล้วเพราะไม่เคยคิดจะเขียน blog ค่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเรายืมรูปจากทางเว็บไซต์มาก่อนนะคะรูปที่เห็นเป็นแบบ Female Dorm

เอ็มพักแบบ female dorm ค่ะเพราะเราเป็นผู้หญิงหมดเลย ไปกัน 6 คนเค้าบอกว่ามีห้องสำหรับ 8 คน เราเลยเหมามาหมดค่ะ เพราะยังไงก็ถูกกว่านอนโรงแรมค่ะ เตียงสะอาดค่ะ พื้นสะอาด มีล็อกเกอร์ใต้เตียงให้เราเก็บกระเป๋าและของมีค่าค่ะ อย่างรูปที่เห็นเป็นรูปตอนที่พาทีมงานที่ออฟฟิศและคุณแม่ไปเที่ยวค่ะ
ห้องสะอาด เตียงสะอาด แอร์เย็น มี Free Wi-Fi

มีBreak fast อารมณ์ ขนมปังปิ้ง cereal ง่ายๆ ฟรีค่ะ แต่สิ่งที่ติดอย่างหนึ่่งคือ ความสะอาดของห้องนํ้า
ถูกว่าไม่แย่ แต่ไม่เป็นที่พอใจนักค่ะ เนื่องจากว่าตัวชักโครกมีการเสีย มีกลิ่นอับชื้น ถ้าจะหักคะแนนก็คะแนนตรงนี้ละคะ ไม่ค่อยมีเสียงดังจากสถานที่ท่องเที่ยวข้างนอก แต่อาจจะมีเสียงดังจากผู้ที่พักอยู่ที่ Hostel ค่ะ



กุญแจที่ได้เป็นรูปแบบสวมข้อมือค่ะ เอาไว้เปิดประตูห้อง เปิด ล็อกเกอร์รองเท้า เป็นล็อกเกอร์ภายในห้อง

ล็อกเกอร์รองเท้าค่ะ 

สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนก็คืนละ 750 ค่ะ 2 คืน ก็ 1,500 บาท ต่อคน ก็ถูกกว่านอนโรงแรมเยอะอะคะ แต่ว่าความสะดวกสบายก็เป็นไปตามราคานะคะ

การเดินทางขึ้นสถานีรถ MRT 
ออกจากตัว hostel แล้วเลี้ยวขวาเดินตรงไปตามทางก็จะเจอแล้วค่ะ เสียดายจริงๆที่ไม่ได้เก็บรูปมาฝาก ยังไงจะทำรีวิวข้อมูลเต็มตัวอีกทีช่วงเดือนตุลาคม พฤศจิกายนนะคะ น่าจะได้ไปอีกที รับรองว่าจะเก็บรูปมาอย่างละเอียดค่ะ

ติดตรงความสะอาด เนี่ยละคะ ที่ทำให้คะแนนลดลงไป

สำหรับ Hostel ที่ 2 ชื่อว่า Bunc Hostel Radius @ Clark Quay ค่ะ

Bunc Hostel มี 2 ที่ค่ะตอนนี้ คือ Little India แล้วก็ Clark Quay ค่ะ


ส่วนตรง Little India เป็นที่แรกนะคะ ขนาดจะใหญ่กว่าที่ Clark Quay
Little India ก็ติดกับบริเวณ Little India เลยค่ะ มีสีสันไปอีกแบบ สำหรับที่เอ็มเลือกพักครั้งล่าสุดคือ
ตรง Clark Quay ค่ะ ที่เห็นในภาพ จะเป็นส่วนที่มีกรอบสี่เหลี่ยมอยู่นะคะ สามารถเดินไป China Town ได้ ใช้เวลา 10 นาทีค่ะ


  • Bunc Hostel Radius @Clark Quay จะเล็กกว่า ABC Premium Hostel ค่ะ 
  • ความสะดวกสบายเรื่องอาหารการกินจะดีกว่าค่ะ 
  • จำนวนห้องรูปแบบห้องมีให้เลือกน้อยกว่าที่ Little India แล้วก็ ABC Premium Hostel 
  • รูปแบบเตียงสะอาดค่ะ คล้ายคลึงกับ ABC Premium Hostel 
  • กุญแจเป็นแบบ คีย์การ์ด
  • อาจมีเสียงดังจากเสียงข้างนอกเนื่องจาก Clark Quay เป็นแหล่งนักท่องเที่ยว และ เที่ยวยามราตรีด้วยค่ะ 
  • มีอาหารเช้าให้คล้ายกับที่ ABC Premium Hostel
  • ตอนกลางคืนมีอาหารขายข้างหน้า อร่อยมากเลยค่ะ รสชาดดีค่ะ ราคาไม่แพง 
  • ข้ามฟังไปจะมี food center เล็กๆ ชื่อว่า BK ก็จะเป็น ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง รสชาดทานได้และราคาถูกค่ะ 
  • ราคาพอๆกันค่ะ 
  • ที่สำคัญคือห้องนํ้าสะอาดค่ะ สะอาดจริงๆค่ะ 
ตอนนี้เฟสบุ๊คเพิ่งลงรูปอัพเดทค่ะ ลองเข้าไปดู กันนะคะ https://www.facebook.com/BuncRadiusHostelCQ

การเลือกที่พักในสิงคโปร์ อย่าคิดแต่เอาเรื่องราคานะคะ ดูความเหมาะสมว่าชอบแบบไหน บางคนไม่ชอบที่คนเยอะๆ ชอบความสะดวกสบาย ก็เลือกอยู่โรงแรมค่ะ 

ถ้าชอบประสบการณ์แปลกใหม่ สะดวกการเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่าย ก็ hostel ค่ะ แต่ก็แลกกับการแชร์ห้องนํ้า เสียงดังตอนกลางคืน อาหารเช้าพออิ่มท้องไม่ได้หรูหราอะไร 

ถ้ารวมที่พัก หากจองล่วงหน้านานหน่อย ประมาณ 5,000 ถ้าได้ pro air asia ก็อาจจะถูกอยู่ที่ 4,000 + 1,500 บาท เป็น 6,500 บาท ถ้าไม่ช้อปปิ้ง ไม่ต้องกินหรูมาก เอาประสบการณ์เที่ยวสถานที่ต่างๆ ไม่รวมค่า universal studio 10,000 บาทก็อาจจะพอ สำหรับทริป 3 วัน 2 คืนนะคะ 

บางคนอาจจะบอกว่าเที่ยวทัวร์ดีกว่า ก็ดีค่ะ แล้วแต่คนชอบ สำหรับเอ็มแล้วการเที่ยวเอง มันดีตรงที่ หลงทางบ้าง งงบ้าง เดินไปเรื่อยๆ เจอสิ่งที่คนอื่นไม่เจอค่ะ ไปกับเพื่อน ครอบครัว หรือไปคนเดียวก็เจอเรื่องที่แตกต่างออกไปเป็นรสชาดแล้วเราจะจำการท่องเที่ยวนั้นๆได้มากขึ้นค่ะ 


เดี๋ยวข้อมูล การเดินทางจะและการซื้อซิมโทรศัพท์จะตามมาในการรีวิวครั้งต่อไปนะคะ 


Thursday, August 15, 2013

Travel Tips Singapore


หลายปีที่ผ่านมาการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ยิ่งมีหลายเสียงพูดถึง AEC แล้วการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านของเรายิ่งมากขึ้น 
2-3 ปีที่ผ่านมาเอ็มมีโอกาสได้ไปประเทศเพื่อนบ้านของเราที่ตามสถิติแล้วเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของอาเซียน ประเทศนั้นคือประเทศสิงคโปร์หลายครั้งมากบางครั้งไปติดต่อธุรกิจ บางครั้งไปเที่ยวและเยี่ยมเยียนเพื่อนคนไทยที่ทำงานที่สิงคโปร์ค่ะ  ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ถือว่าเป็นประตูของภาคพื้นเศรษฐกิจฝั่งอาเซียนก็เป็นได้ เพราะตั้งอยู่ปลายสุดของแหลมมาลายู ทำให้เป็นที่พักของพ่อค้าระหว่างทาง ประวัติความเป็นมาของประเทศนี้หาได้ง่ายจาก google wikipedia นะคะ 

อากาศ
อากาศที่สิงคโปร์เป็นลักษณะที่คล้ายคกับอากาศบ้านเรา อากาศค่อนข้างร้อน แต่ถามว่าระดับความร้อนมากกว่าบ้านเรามั้ย บ้านเราร้อนกว่าเยอะแม้ว่าเพื่อนคนสิงคโปร์จะบอกว่าบ้านเค้าร้อนมากก็ตาม และอากาศที่สิงคโปร์จะมีลักษณะชื้นมากกว่าเรานะคะ หน้าอาจจะมันเร็วขึ้นนิดนึง ตามตำราบางตำราจะบอกว่าสิงคโปร์มี 2 ฤดูคือ ร้อนกับฝน ร้อนจะช่วงกุมภาพันธ์-ตุลาคม ฝนจะช่วง พฤศจิกายน-มกราคม แต่เท่าที่เพิ่งกลับมาเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีฝนตกโปรยๆ เกือบทุกวันนะคะ เนื่องจากปัจจุบันอากาศได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ก่อนไปอย่าลืมเช็คอากาศเผื่อว่าจะได้เตรียมชุดไปได้ถูกค่ะ 

สายการบิน
สำหรับข้อมูลที่จะให้เป็นข้อมูลสำหรับการเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง แบบไม่แพง งบจำกัดทานอาหารข้างทางได้แต่รสชาติอร่อย เริ่มกันที่สายการบินที่เลือกนะคะถ้าเป็น low cost มีหลายสายการบินค่ะเช่น Air Asia, Jet Star, Tiger , Scoot ที่เคยนั่งมากจะมี Air Asia กับ Scoot ค่ะ ส่วนหากใครที่มีสิทธิการแลกไมล์ของการบินไทย ก็สามารถใช้ได้ ถือว่าคุ้มค่าค่ะ 

ถ้าจองของ air asia ลองดูโปรโมชั่นจะคุ้มค่า ถ้าไม่ใช่ช่วงโปรโมชั่นก็พอรับไว้ค่ะ อยู่ที่ 5,000-6,000 ทั้งนี้อยู่ที่ช่วงเวลาจองด้วยนะคะ ถ้าเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ ย่อมแพงกว่าวันธรรมดาเป็นปกติค่ะ
ขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ลงดอนเมือง 

http://www.airasia.com/th/en/home.page เว็บของ airasia ค่ะ 

ถ้าจองของ scoot  จะมีโล้โก้เป็นแบบข้างล่างจองผ่านเว็บของ www.flyscoot.com ค่ะ เป็นสายการบินlow cost ใหม่ 
สำหรับ scoot จะขึ้นเครื่องและลงเครื่องที่สุวรรณภูมินะคะ แต่ scoot จะไม่มีเวลาให้เลือกเหมือนของ airasia จะค่อนข้าง fix เวลา 
เวลาออกจากกรุงเทพอยู่ที่ 20.05 (เวลาไทย) ถึงสิงคโปร์ 23.20(เวลาสิงคโปร์)  ค่ะ 
เวลากลับออกจากสิงคโปร์ 17.45 (เวลาสิงคโปร์) ถึงกรุงเทพ 19.05(เวลาไทย) ค่ะ 
ถึงสิงคโปร์ดึกค่ะ แต่ว่าประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ปลอดภัย สบายๆ กฎหมายเคร่งมากๆๆๆๆ 
ไม่ต้องห่วงว่าถึงดึกแล้วจะอันตรายค่ะ 

ถ้าไม่ load กระเป๋าขึ้นเครื่องเลยนะคะ ราคาอยู่ที่  4,533 บาท ถ้าโหลดขึ้นก็ 15 กิโลอยู่ที่ 375 บาท ไปกลับก็ 750 บวกกันไป ถ้าให้แนะนำคือ ขาไปไม่ได้โหลดกระเป๋า ถ้าช้อปปิ้งกลับมาค่อยโหลดก็ได้ค่ะ หรืออีกวิธีหากไปกัน 2 คนขึ้นไปก็หารเฉลี่ยค่ากระเป๋ากัน ไม่จำเป็นต้องโหลดกันทุกคน 
ที่ให้รายละเอียดของ scoot มากกว่าเพราะถ้าเป็นแอร์เอเชียจะมีเวลาให้เลือกเยอะค่ะค่อนค้างยืดหยุ่นกว่า แอร์โฮสเตสเป็นคนไทย ถ้า scoot จะสิงคโปร์ค่ะ แล้วแต่สะดวก สำหรับเอ็มใช้บริการ scoot เพราะชอบขึ้นสุวรรณภูมิ และถูกกว่าหากไม่ได้โปรจากแอร์เอเชียค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ความชอบด้วยนะคะ 

ส่วนที่พัก เคยได้มีโอกาศพักที่พักหลายรูปแบบค่ะ
เช่น Studio M Hotel อยู่ตรง Robertson Quay เดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน clark quay ประมาณ 10 นาทีค่ะ
รูปแบบวัยรุ่นๆ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวยามคํ่าคืน รูปไม่มีให้ดูเพราะเคยใช้บริการปีที่แล้วนะคะ มีแต่รูปที่มาจากเว็บไซต์อื่นๆนะคะ
ลองเข้าไปดูในเฟสบุ๊คได้ค่ะ ราคาอยู่ประมาณ 4,500++ ต่อคืนค่ะ ผ่านทาง agoda นะคะ  https://www.facebook.com/studiomhotel
รูปแบบห้องจะเป็นชั้นลอย ไสตล์โมเดิร์นค่ะ

โรงแรม Grand Park City Hall  โรงแกรมนี้แพงกว่าที่อื่นเลยค่ะ ประมาณ 7,000 กว่าบาทต่อคืนเท่าที่เคยพักมานะคะ ใกล้ ห้าง funan ที่สามารถเดินไปช้อปของเทคโนโลยี เปลี่ยนซิมโทรศัพท์ได้ง่ายๆค่ะ
ใกล้สถานีรถไฟฟ้า city hall ไม่มีเสียงดังเวลานอน เดินไป clark quay ประมาณ 5 นาทีค่ะ


ต่อมา V Hotel Lavender เป็นโรงแรมที่ราคาจะถูกลงมาหน่อยค่ะ อยู่ประมาณ 4,000 บาทต้นๆ คนไทยอยู่เยอะ ทัวร์อยู่เยอะ แต่โอเคนะคะ อาหารการกินสะดวก ห้องพัก ไม่ต้องหวังห้องใหญ่นะคะ สำหรับประเทศสิงคโปร์ เพราะพื้นที่เค้ามีจำกัด และแพงมาก สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน lavender ค่ะ

อีกที่ที่เอ็มไปพักบ่อยที่สุดคือ Fragrance Riverside ค่ะ เคยเห็นมีเพื่อนไปพัก Fragrance ที่อื่นแล้วไม่ประทับใจ แต่สำหรับเอ็มที่ Fragrance Riverside ถือว่าโอเคค่ะ เนื่องจากว่าต้องไปสัมมนาที่บริษัทของเพื่อนที่อยู่แถว clark quay เลยเลือกโรงแรมนี้ค่ะ ไม่มีรูปห้องให้ ตามเดิมค่าเนื่องจากว่าตัดสินใจเขียนข้อมูลหลังจากที่มีเพื่อนและหลายๆคนที่ถามข้อมูลเกี่ยวกับสิงคโปร์ เลยไม่ได้เก็บรูปไว้ มีแต่รูปจากห้องฟิตเนสเล็กๆค่ะ ที่มองออกมามีสระว่ายนํ้า มองออกไปตรงข้ามกับห้อง central ค่ะ ราคาอยู่ประมาณ 3,500 บาทบวกๆ เดินจากโรงแรมไปทางขวา ตรงไป เลี้ยวขวาหากเดินไปสุดมุมถนนจะเจอร้านบักกุดเต๋ ที่ดังมากๆ ชื่อว่า Song Fa Bak Kut Teh ค่ะ มีหลายอย่างให้เลือก อันนี้เป็นบักกุดเต๋ปลาค่ะช่วงที่ไปงดเนื้อสัตว์ใหญ่ เลยลองสั่งปลามา อร่อยไปอีกแบบค่ะ ก่อนถึงร้าน Song Fa มีบันไดเลื่อนให้ขึ้นข้ามไปห้าง Central เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานี Clark Quay ค่ะ 








มุมจากห้องฟิตเนสเล็กๆของทางโรงแรม 


ทุกโรงแรมที่เคยไปจองผ่าน agoda หมดเลยค่ะ ข้อมูลครั้งต่อไปจะเป็นข้อมูลสำหรับที่พักแบบ hostel นะคะ 


Monday, March 25, 2013

Travel + Online Channel


source : affilinet
source : visual.ly

ช่วงซัมเมอร์นี้เป็นช่วงที่ยอดจำหน่ายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังเติบโตอย่างเห็นได้ชัด และเกิดขึ้นในทุกๆปีนะฮะ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคหากเป็นเหมือน4-5 ปีก่อนการจองบริการการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสารการบิน ทัวร์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็อาจจะมีการจองผ่านออนไลน์ไม่เท่ากับปัจจุบัน แม้ว่าการวิจัยในรูปแบบ info graphic นี้ไม่ได้เก็บข้อมูลในประเทศไทย แต่ก็เห็นได้ชัดว่า จากจำนวนประชากรวิจัยนี้ซึ่งเกิดขึ้นในอังกฤษมี 57% ของทั้งหมดที่ทำการจองบริการท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านช่องทาง ออนไลน์ 23% ผ่านเอเจนซี่ทัวร์ และ 16% ผ่านทางมือถือฮะ ดูตัวเลขผ่านทางมือถือน้อยใช่มั้ยฮะ ความจริงแล้วช่องทางออนไลน์ผ่านทางมือถือกลับกลายเป็นช่องทางที่มีการเติบโตมากที่สุดฮะ และสิ่งที่มีผลกับการตัดสินใจมากที่สุดคือโปรโมชั่นและดีลต่างๆที่ผู้บริโภครู้สึกพิเศษไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาซึ่งอาจจะนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนจุดหมายปลายทางที่มีการค้นหามากที่สุดก็ลอนดอนฮะ รองลงมาก็เมืองหลวงบ้านเรานี้เองฮะ กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคก็จะทำการซื้อดีลต่างๆผ่านแหล่งข้อมูลอย่าง tripadvisor เป็นมากที่สุดฮะ
สำหรับข้อมูลนี้ เรามั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลายๆคนที่อยู่ในวงการการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาหาร ทัวร์ คงจะเริ่มเข้าใจว่าช่องทางการโปรโมทสินค้าและบริการของคุณอาจจะไม่สามารถมีแค่ช่องทางเดียวอีกต่อไปนะฮะ อย่าลืมว่าหากเราเริ่มได้เร็วกว่าคู่แข่งและทำอย่างสมำ่เสมอ ก็จะมีชัยไปมากกว่าครึ่งแน่นอนฮะ